วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว


ชื่อ นางสาว ญาณภรณ์  นามสกุล ยาวิชัย
รหัสนักศึกษา 51132792070  ตอนเรียน H1
ชื่อเล่น  อ้อม   วันเกิด 09 พฤษภาคม 2532 อายุ 21 ปี
ที่อยู่ปัจจุบัน 51 หมู่ 3 ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย 57180
กำลังศึกษาอยู่ที่  มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  คณะ วิทยาการจัดการ 
หลักสูตร บริหารธุรกิจ สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ชั้นปีที่ 3
E-mail: a-o-m_yawichai@hotmail.com

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ

สิ่งที่ได้รับจากการเรียน การเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ
การบรรยายครั้งที่ 1   ปฐมนิเทศรับขวัญสู่บ้านใหม่
วันที่23 มิถุนายน 2553
บรรยายโดย อ.สาระ  มีผลกิจ
กิจกรรมที่ 1 มีการบรรยายเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนของรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ เพื่อให้นักศึกษาทุกคนเข้าใจร่วมกัน โดยอธิบายถึงเรื่อง การเข้าเรียน การขาดเรียน กฎกติกาที่ต้องทำตามและบอกวิธี การให้คะแนนของวิชาเตรียมฝึก
กิจกรรมที่ 2 อาจารย์ สาระ มีผลกิจ มาบรรยายเรื่องมารู้จกสวนดุสิตกันเถอะ โดยเล่าประวัติคร่าวๆของสวนดุสิตตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบันให้ฟัง
ความรู้ที่ได้รับ
1.ได้รู้จักความตรงต่อเวลา คือการที่จะเข้าหอประชุมรักตะกนิษฐ์ต้องมาถึงก่อนเวลาที่อาจารย์เช็คชื่อมิฉะนั้นจะถือว่าขาดหรือไม่ก็สาย
2.ได้รู้จักความเป็นระเบียบเรียบร้อย คือ การที่ต่อแถวเข้าหอประชุมรักตะกนิษฐ์ต้องต่อตามรหัสเพื่อไม่ให้เกิดการแซงคิวกันว่าใครมาก่อนมาหลังและง่ายต่อการเช็คชื่อ
 3.ได้รู้จักความขยันอดทนต่องานที่ได้รับมอบหมาย คือ ทำงานด้วยตนเองที่ได้รับจากอาจารย์มากมายให้สำเร็จและเสร็จทันเวลากำหนดส่ง
4.ได้รู้จักความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน คือต้องรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานที่ตนเองได้รับมอบหมาย
5.ได้รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม คือเพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะและได้ผลงานที่สำเร็จตรงตามเป้าหมายของกลุ่ม
6.ได้รู้จักสวนดุสิตมากขึ้นว่าที่ไหนเคยเป็นอะไรมาก่อน
การบรรยายครั้งที่ 2     การประกันคุณภาพ"และ"การพัฒนาบุคลิกภาพ คุณธรรมจริยธรรมและธนาคารความดี
วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2553
บรรยายโดย ผศ.โรจนา  ศุขพันธ์
ความรู้ที่ได้รับ
1.ได้รู้ว่าเราควรพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองในด้านไหนบ้าง
2.ได้รู้จักการทำความดีให้กับคุณพ่อคุณแม่และสังคม คือได้ทำความดีตอบแทนคุณของคุณพ่อคุณแม่และได้ทำดีต่อสังคมส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ตัว
การบรรยายครั้งที่ 3    กิจกรรมการเงินส่วนบุคคล
 วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2553
บรรยายโดย คุณกษม ภูติจินดานันท์
ความรู้ที่ได้รับ
1.ได้รู้จักคุณค่าของเงินและรักการออมมากขึ้น คือ การบันทึกรายรับรายจ่ายในตารางExcell ของเดือนสิงหาคม
2. ฝึกฝนให้รู้จักการออม โดยการลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันให้น้อยลงใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นก็พอ
การบรรยายครั้งที่ 4   ทักษะการสื่อสารภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
 วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2553
บรรยายโดย อ.ปรีชา ร่วงลือ
ความรู้ที่ได้รับ
1.การคัดไทย แสดงให้เห็นว่า การเขียนที่ถูกต้องตามหลักภาษาไทยต้องเขียนอย่างไรและสะกดให้ถ้อยถูกคำ
2.การคัดไทยฝึกให้เป็นคนใจเย็นขึ้น ไม่รีบร้อนเหมือนแต่ก่อน
3.ได้รู้ว่าการใช้ภาษาไทยควรใช้อย่างไรไม่ให้ภาษาวิบัติ
การบรรยายครั้งที่ 5 เตรียมความพร้อมเพื่อการฝึกงานอย่างมืออาชีพ เรื่อง "จรรยาบรรณ วิชาชีพกับธรรมมะ
บรรยายโดย หลวงปู่ พุทธะอิสระ กับคุณ มนัส ตั้งสุข ผู้ประกาศข่าวช่อง 5
ความรู้ที่ได้รับ
1.ได้รู้ว่าการเตรียมตัวออกไปฝึกประสบการณ์ คือมนุษย์ต้องตั้งใจเป็นมนุษย์ให้ดีก่อน
2.ได้รู้ว่าการทำงานด้วยวิธีอันเลิศก็จะทำให้มีความสำเร็จที่เลิศ เราไม่สนใจว่าผลงานจะออกมาแบบไหน แต่สนใจว่าเราจะทำแบบบั้น
3.ได้รู้ว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จได้เมื่อเราลงมือทำด้วยกายและใจ

บุคคลิกภาพสไตล์ BIZCOM

                บุคลิกภาพ  คือ  ลักษณะท่าทางซึ่งสามารถแสดงออกมาได้ทั้งทางร่างกาย  จิตใจ  และความรู้สึกนึกคิด  ที่สะท้อนออกมาให้ผู้อื่นเห็นและเกิดความประทับใจ  ฉะนั้น  การที่บุคคลจะได้รับการยอมรับนับถือ  การสนับสนุน  ความไว้วางใจ  และความประทับใจจากผู้อื่นนั้น  ก็ควรที่จะแสดงบุคลิกภาพที่ดีและเหมาะสมให้ผู้อื่นเห็น  เพราะบุคลิกภาพมีอิทธิพลต่อความรู้สึกและอารมณ์ของผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
                ในวันนี้เรามาเรียนในคณะบริหาร บุคลิกภาพนับเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกและอารมณ์ของผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง  จึงส่งผลต่อการยอมรับนับถือ  การให้ความร่วมมือ  การสนับสนุน  และความไว้วางใจจากผู้อื่น
                บุคลิกภาพสไตล์ ชาว  BIZCOM มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เราต้องฝึกฝนและปฏิบัติหาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ เพราะการเรียนบริหารคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปทุกๆ 7 วินาที อย่างที่อาจารย์รจนาบอก โดยรูปแบบสไตล์ชาวBIZCOM ทำตามได้ดังนี้
                 การมอง สายตาสามารถบอกถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเมตตาปรานี ความโกรธแค้น ความเคารพนับถือ หรือความเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลน ฉะนั้น เมื่อเรามองใคร เราจะต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพเรียบร้อย ระวังในการใช้สายตาอย่าให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดได้
                การแต่งกาย ต้องคำนึงถึงความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ แต่งกายให้พอดี อย่าให้มากเกินไปจนกลายเป็นน่าเกลียด
                การพูด ต้องมีศิลปะในการพูด พูดให้ชนะใจผู้ฟัง โดยจะต้องใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ และใช้คำพูดที่เหมาะสมกับผู้ฟัง (โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง) สถานที่ เวลา และโอกาส
                การเดิน ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป ซึ่งจะทำให้เป็นที่รบกวนผู้อื่น ต้องเดินให้ตัวตรง อกผายไหล่ผึ่ง เดินให้มีท่าทางสง่าและเรียบร้อย ไม่เดินผ่ากลางผู้อื่นที่ยืนสนทนากันอยู่  
                การแสดงท่าทาง ต้องระวังท่าทางที่ไม่สวยงาม เวลาพูดหรือทำอะไรก็ตาม อย่ามีการแสดงท่าประกอบมากเกินไปจนน่าเกลียด หรือแสดงท่าที่ไม่สุภาพ
               ทักษะในการทำงาน ในการทำงานใด ๆ ก็ตามจะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ต้องทำด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ด้วยความชำนาญ และให้ได้ผลงานดีเด่น
                สุขภาพ ต้องระวังสุขภาพให้ดี อย่าให้มีโรค ระวังรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ